รัฐบาลเตรียมเปิดอันดามัน แซนด์บ็อกซ์ แต่โควิดยังไม่ดีขึ้น
ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ ส่งผลให้หลาย ๆ กิจการต้องปิดตัวลงตามมาตการของรัฐ เพื่อเป็นการควบคุมโรค และไม่ให้เชื้อแพร่กระจายมากกว่าเดิม แต่ดูจากสถิติผู้ติดเชื้อโควิดรายวันแล้ว ก็น่าหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนิวไฮทุก ๆ วัน ยอดของวันนี้ 23 ก.ค. 64 อยู่ที่ 14,575 ราย และเสียชีวิต 114 ศพ นั่นเลยทำให้คนยิ่งเกิดความกังวลว่ารัฐบาลจะจัดการโควิดได้จริง ๆ หรือรัฐบาลขายฝันกันแน่?
แต่ถึงอย่างไรกิจกรรมบางอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปเพื่อความอยู่รอด อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ค.64 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ได้มีการเสนอแผนการขยายเปิดพื้นที่บางส่วนของกระบี่ และพังงา เพื่อพิจารณาให้เปิดรับนักท่องเที่ยวตามกำหนดในช่วงเดือนสิงหาคม หลังนำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีต่างชาติเข้ามา 9 พันกว่าคน

อันดามัน แซนด์บ็อกซ์ โครงการใหม่ที่อาจได้เห็นเร็วๆนี้
ซึ่งเรื่องนี้ ททท. ได้ระบุเพิ่มเติมว่า แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเน้นที่จังหวัดที่มีความพร้อม ความพร้อมดังกล่าวทั้งในเรื่องของทรัพยากร สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงคนในจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนจนมีภูมิคุ้มกันตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว แผนดังกล่าวจะประกอบไปด้วย 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, พัทยา, บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, กระบี่ และพังงา

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเกาะสมุยไปแล้ว เท่ากับว่าในตอนนี้เหลืออีก 6 จังหวัดท่องเที่ยว ที่ต้องรอให้ประชาชนได้รับวัคซีนเกิน 70% ตามแผนพัฒนาเมือง แผนการตลาด แผนเผชิญเหตุ และแผนประชาสัมพันธ์เสียก่อน ส่วนจังหวัดที่เข้าร่วม ‘อันดามัน แซนด์บ็อกซ์’ จะประกอบไปด้วยภูเก็ต กระบี่ (ตามเป้าหมายแผนการท่องเที่ยว เกาะพีพี เกาะไหง และอ่าวไร่เลย์) และพังงา แต่ขณะเดียวกันพังงาก็ยังคงขาดวัคซีนอีกจำนวน 63,000 โดส พังงาจึงเปิดพื้นที่ได้บางส่วนเท่านั้น คือ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ กำหนดเปิดตัว 1 สิงหาคม 2564 ตามแผนเดิม
นอกเหนือจากนี้ยังได้มีการผุดโครงการ Phuket Jewelry Fair ที่เป็นการจับมือร่วมกันกับศบค.และหอการค้าไทย ในช่วงเดือนกันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาซื้ออัญมณีและเครื่องประดับจากไทย เพื่อส่งเสริมการส่งออกและการท่องเที่ยวให้ครบจบภายในโครงการเดียว

สถานการณ์โควิดแบบนี้ ทำไมยังเปิดประเทศ?
สถานการณ์โควิดแบบนี้ ทำไมยังเปิดประเทศ? นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเหมือนกับเรา เพราะในช่วงที่ผ่านมาสถิติการติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงมาก อีกทั้งยังมีโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอีก ดูอย่างภูเก็ตที่กำลังเตรียมจัดงาน International Boat Show แต่เป็นงานที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2565 ที่ถึงแม้ว่ายังไม่มีใครตอบได้ว่าทิศทางของการแพร่ระบาดจะเป็นอย่างไร แต่โครงการดังกล่าวก็ได้กำหนดเวลาในการเปิดงานที่ไกลไปก่อน (ถึงวันนั้นค่อยว่ากันอีกที)

แต่อย่างอันดามัน แซนด์บ็อกซ์ ที่จำเป็นต้องเปิดโครงการในวันตามแผนที่วางไว้ น่าจะเป็นเพราะในช่วงนี้เศรษฐกิจท่องเที่ยวในไทยย่ำแย่ รัฐจึงจำเป็นต้องหาแนวทางเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ด้วยการนำร่องจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนประชาชน และความพร้อมในหลาย ๆ ด้านไปก่อน อีกทั้งชาวต่างชาติยังถือเป็นเป้าหมายใหญ่ที่จะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจในไทยได้ ที่สำคัญโครงการต่าง ๆ เป็นการ ‘ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง’ เข้ามาในไทย ที่อาจเป็นประโยชน์กับประเทศในระยะยาว ประกอบไปด้วย 4 กลุ่ม
- กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen)
- ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner)
- กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional)
- กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)

ถึงอย่างไร หวังว่าโครงการที่เปิดตัวไปจะประสบผลสำเร็จตามที่ประชาชนคาดหวังเอาไว้ ที่สำคัญประชาชนหวังเพียงแค่ว่า ‘มันจะดี’ และไม่กระทบกับชีวิตจนทำให้ประชาชนเกิดความลำบากเป็นพอ ในช่วงนี้ทุกคนก็อย่าลืมดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ฉีดวัคซีน (ที่ดี) ติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์ หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม ตรวจโควิดที่บ้านหากมีอาการ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อร้ายโควิด-19